วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555

กัปตันซึบาสะ

เนื้อเรื่องย่อ

[แก้] ภาคแรก

โอโซระ ซึบาสะ เจ้าหนูสิงห์นักเตะ เรื่องราวนี้ได้เกิดขึ้นในเมืองนันคัตซึ จังหวัดชิสึโอกะ ซึบาสะ ได้พบกับเพื่อนเล่นบอลที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น อิชิซากิ วาคาบายาชิ มิซากิ ความฝันและการต่อสู้ของพวกเขาจึงได้เริ่มต้นขึ้น จากระดับเมือง เป็นจังหวัด จนถึงระดับประเทศ ได้แข่งขันกันอย่างดุเดือด ได้พบทั้งคู่แข่ง และเพื่อนมากมาย เช่น เฮียวงะ มิสุงิ มัตซึยาม่า พี่น้องทาจิบาน่า อีกทั้งเมื่อซึบาสะได้รู้จักกับ โรแบร์โต้ ฮอนโก อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบราซิล ทำให้ซึบาสะเกิดความฝันที่จะไปบราซิลกับโรแบร์โต้
แต่แล้วด้วยเหตุบางอย่าง ทำให้โรแบร์โต้จากเขาไปบราซิลแต่เพียงลำพัง ทิ้งให้ซึบาสะที่เพิ่งนำทีมประถมนันคัตซึชนะเลิศฟุตบอลระดับประเทศมาสดๆร้อนๆ ต้องอยู่ญี่ปุ่นต่อไป อย่างไรก็ตาม ซึบาสะก็ยังตั้งใจว่าสักวัน เขาจะต้องไปบราซิลและได้พบกับโรแบร์โต้อย่างแน่นอน หลังจากนั้นซึบาสะก็ใช้หนังสือที่โรแบร์โต้เขียนทิ้งไว้ให้ ฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ เขาได้นำทีมมัธยมนันคัตซึเป็นแชมป์ระดับประเทศ 3 สมัยซ้อน จากนั้นเขาและเพื่อนๆ ทีมชาติ ได้นำชื่อของญี่ปุ่นไปชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลยุวชนนานาชาติที่ฝรั่งเศสอีกด้วย และสุดท้ายความฝันที่จะไปบราซิลกับโรแบร์โต้ของซึบาสะก็เป็นจริง
 

[แก้] ภาคเยาวชนโลก

เป็นเรื่องราวภาคต่อ หลังซึบาสะพาทีมชาติญี่ปุ่นชนะทีมชาติเยอรมนี ในศึกฟุตบอลยุวชนนานาชาติได้แล้ว หลังจากนั้นอีก 3 ปี จึงได้มาเตะฟุตบอลเยาวชนโลก (World Youth) โดยมีคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศคือทีมชาติเยาวชนบราซิลซึ่งมี โรแบร์โต ฮอนโก อดีตโค้ชของซึบาสะเป็นผู้จัดการทีม เพื่อเฟ้นหาราชาลูกหนังรุ่นหนุ่มแห่งอนาคต ในภาคนี้ มีทีมชาติเยาวชนของไทย ซึ่งมีบุนนาค สิงห์ประเสริฐเป็นกัปตันทีม และมีสามพี่น้องกรสวัสดิ์เป็นฝ่ายประสานกำลัง โดยทีมญี่ปุ่นชนะอย่างหวุดหวิดไป 5 ประตูต่อ 4 ลิขสิทธิ์หนังสือการ์ตูนในประเทศไทยเป็นของสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ความยาว 18 เล่ม

[แก้] ภาค Road to 2002

หลังจากภาคเยาวชนโลก ซึบาสะ ต้องการที่จะพาทีมชาติญี่ปุ่นคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่นกับเกาหลีร่วมกันเป็นเจ้าภาพ และต้องการเป็นนักเตะอันดับ 1 ของโลก โดยซึบาสะย้ายทีมจากเซาเพาโลในประเทศบราซิล มาอยู่กับบาร์เซโลนาในประเทศสเปน และต้องพบกับความจริงจังในการเป็นนักเตะอาชีพ และได้พบกับ ริวัล หมายเลข 10 ของบาร์เซโลนา ซึ่งเป็นนักเตะอันดับ 1 ของโลก เพื่อนร่วมทีมอย่างเฮียวงะ โคจิโร่ที่ไปอยู่กับยูเวนตุส เพื่อสานฝันการเป็น สไตรก์เกอร์อันดับ 1 ของโลก และวากาบายาชิอยู่กับฮัมบูร์ก ส่วนคู่แข่งคนสำคัญ นาโทเลซา มาอยู่กับรีล มาดริด ทั้งนี้เนื้อเรื่องมีความยาว 15 เล่มจบ แต่จริงๆแล้ว เนื้อเรื่องยังไม่จบ เพราะเล่มอวสานถึงแค่ซึบาสะเอาชนะศึกเอลคลาชิโก โดยถล่มรีล มาดริดไป 6:5รายชื่อตัวละคร

[แก้] รายชื่อสมาชิกทีมชาติญี่ปุ่น

ธงชาติของญี่ปุ่น โอโซระ ซึบาสะ[1]
โอโซระ ซึบาสะ (大空 翼 -- โอโซระ แปลว่าท้องฟ้า และ ซึบาสะแปลว่า ปีก) เป็นนักเตะเล่นตำแหน่ง มิดฟิลด์มีท่าไม้ตายคือ 'ไดร์ฟชู๊ต' ความรักในฟุตบอลที่ทำให้เขากลายเป็นสุดยอดนักเตะ
ธงชาติของญี่ปุ่น วากาบายาชิ เก็นโซ
ผู้รักษาประตู มีความสามารถมาก ฉายา SGGK (Super Great Goal Keeper) ไปอยู่เยอรมันตั้งแต่เด็กหลังจากร่วมกับซึบาสะคว้าชัยในการแข่งระดับประถมได้
ธงชาติของญี่ปุ่น มิซากิ ทาโร่
มิดฟิลด์ เล่นคู่กับซึบาสะได้รับฉายาว่าคู่แข้งทอง เดินทางตามพ่อไปทั่วโลก ทำให้มีเพื่อนและทักษะฟุตบอลมากมาย มีท่าไม้ตายคือ บูมเบอรแรง ช็อต
ธงชาติของญี่ปุ่น เฮียวงะ โคจิโร่
เป็นศูนย์หน้าของ เมวะ ฮิงาชิ FC เป็นนักเตะที่มีพลังในการยิงประตูสูงมาก และเป็นคนแรกที่สามารถเล่นบอลเอาชนะซึบาสะได้ แต่ก็ต้องมาพ่ายแพ้แก่ซึบาสะในภายหลัง เฮียวงะ เกิดในครอบครัวที่ยากจน เป็นลูกคนโตในบรรดาพี่น้องทั้ง 4 คน เพราะต้องช่วยทางบ้านซึ่งพึ่งจะสูญเสีย "พ่อ" ซึ่งเป็นเสาหลักของบ้านไป เฮียวงะจึงต้องทำงานพิเศษทุกงานและเรียนไปด้วย ในต่อมา เฮียวงะได้สามารถคิดค้น ลูกยิง 'ไทเกอร์ช็อต' ที่รุนแรงได้ และยังพัฒนาเป็นลูกยิง 'นีโอ ไทเกอร์ช็อต' เมื่อได้ไปแข่งฟุตบอลยุวชนนานาชาติที่ฝรั่งเศส
ธงชาติของญี่ปุ่น วากาชิมัตสึ เคน
ผู้รักษาประตู ใช้คาราเต้ผสมผสานกับฟุตบอลในการป้องกันประตู มีสไตล์การเล่นแบบบุกตะลุย ผู้รักษาประตูมือสองของญี่ปุ่น มีความสามารถทางคาราเต้ และได้ปรับเข้ามาใช้กับการป้องกันประตูด้วย ทำให้เกิดเป็นท่วงท่าเฉพาะตัว ถนัดการออกมาตัดบอลและเติมเกมรุก
ธงชาติของญี่ปุ่น พี่น้องทาจิบานะ
คู่แฝดอดีตคู่แข่งของซึบาสะ มีความสามารถในการเล่นฟุตบอลจากกลางอากาศ ท่าไม้ตายคือ สกายเล็ป เฮอร์ริเคน
ธงชาติของญี่ปุ่น อิชิซากิ เรียว
ฟูลแบ๊ค เล่นกับซึบาสะมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ระดับโรงเรียนจนถึงเยาวชนทีมชาติ ฝีเท้าพัฒนาตามซึบาสะไปด้วย มีท่าไม้ตายพิเศษคือการเอาหน้าบล็อกลูกบอล
ธงชาติของญี่ปุ่น มิสึกิ จุน
มิดฟิลด์,ลิเบโร่ พรสวรรค์สูงแต่เป็นโรคหัวใจ ภายหลังรักษาหายกับมาเล่นทีมชาติในตำแหน่งลิเบโร่ มีท่าไม้ตายมาใช้ภายหลัง 'ลูกยิงใบไม้ร่วง' หรือในที่รู้จักกันในนามว่า 'ไดร์วชู๊ต' แบบเดียวกันกับซึบาสะ
ธงชาติของญี่ปุ่น มัตสึยาม่า ฮิคารุ
กองหลัง,มิดฟิลด์ตัวรับ เป็นผู้เล่นที่มีความเป็นผู้นำ และความพยายามสูง มีจุดเด่นที่ครองบอลได้ดี มีท่าไม้ตายคือ อีเกิล ลองช็อต
ธงชาติของญี่ปุ่น อาโออิ ชินโง
น้องใหม่ที่มาแรงของทีมญี่ปุ่น ฉายาไฟเขียวผ่านตลอด แม้ในช่วงมัธยมต้น เขาจะไม่มีโอกาสได้แข่งขันในระดับประเทศเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและรักการเล่นฟุตบอล เขาจึงได้เดินทางไปฝึกฝนฝีเท้าที่ประเทศอิตาลี จุดเด่นคือ ความสามารถในการเข้าหาและเกาะติดบอลในทุกรูปแบบ อีกทั้งพลังกายที่จะเคลื่อนไหวได้ตลอดทั้งเกม
ธงชาติของญี่ปุ่น ยิโท ฮิโรชิ
กองหลังร่างยักษ์ของทีมญี่ปุ่น มีพละกำลังมหาศาล สามารถวิ่งอยู่ในสนามได้ 90 นาทีเต็ม ท่าไม้ตายคือ เอาตัวโถมใส่คู่ต่อสู้
ธงชาติของญี่ปุ่น ซาโน มิจิรุ
คู่ขาของยิโทตั้งแต่สมัยเด็ก เป็นนักเตะที่ตัวเล็ก แต่มีความไวและความสามารถในการครองลูกได้ดี
ธงชาติของญี่ปุ่น โซดะ มาโกโตะ
กองหลังที่มีความเฉียบคม สมญานาม นักฆ่ามือปืน เจ้าของลูกชู้ตใบมีดโกน
ธงชาติของญี่ปุ่น นิตตะ ชุน
กองหน้าร่างเล็กที่วิ่งได้เร็ว เจ้าของลูกเหยี่ยวโฉบ
ธงชาติของญี่ปุ่น ซาวาดะ ทาเคชิ
เจ้าหนูคู่ขาของเฮียวงะตั้งแต่สมัยเด็ก แม้จะตัวเล็กแต่ก็เป็นกองกลางที่มีเทคนิค
ธงชาติของญี่ปุ่น สามสิงห์ ชิวเทสซึ
เป็นชื่อเรียกตั้งแต่สมัยประถมของ 3 นักเตะ ประกอบไปด้วย คิซึกิ , ทากิ ฮาจิเม และ อิซาว่า มาโมรุ ซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ร่วมเล่นกับซึบาสะมาตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยมต้น
ธงชาติของญี่ปุ่น โมริซากิ ยูโซ
หลังจากที่วากาบายาชิไปเยอรมันโมริซากิก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูของโรงเรียนนัทคัทซึแทน และเป็นผู้รักษาประตูมือสามของทีมชาติญี่ปุ่น
ธงชาติของญี่ปุ่น นาคาซาว่า ซานาเอะ
เพื่อนหญิงร่วมชั้นเรียนของซึบาสะตั้งแต่สมัยประถม เป็นหัวหน้ากองเชียร์และผู้จัดการทีมฟุตบอลนันคัตซึ และชอบซึบาสะมาตลอด และสุดท้ายเธอก็ได้ลงเอยกับซึบาสะ ทั้งสองได้แต่งงานกัน
ธงชาติของญี่ปุ่น โอโซระ ไดจิ
น้องชายของซึบาสะที่เพิ่งเกิดหลังจากซึบาสะไปบราซิล ชอบเล่นฟุตบอลเช่นกัน มีแววว่าจะรุ่งเหมือนพี่ชาย
ธงชาติของญี่ปุ่น โอโซระ ฮายาเตะ
ลูกชายของซึบาสะและซานะเอะที่ปรากฏตัวออกมาในตอนตลุยโอลิมปิกภาคพิเศษ ซึ่งหัดเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็กเช่นเดียวกับซึบาสะ และลูกอีกคนของซึบาสะ คือไดบุ ซึ่งไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ฮายาเตะ หรือ ไดบุ เป็นพี่ชายหรือน้องชายกันแน่
ธงชาติของญี่ปุ่น โอโซระ ไดบุ
ลูกชายของซึบาสะและซานาเอะอีกคนหนึ่งและหัดเล่นฟุตบอลเช่นเดียวกับ ฮายาเตะ

[แก้] รายชื่อสมาชิกทีมชาติไทย (ภาคเยาวชนโลก)

ธงชาติของไทย ฟ้าลั่น กรสวัสดิ์ (FW)
พี่ใหญ่ของตระกูลกรสวัสดิ์ สวมเสื้อเบอร์ 10 (สวมเสื้อเบอร์ 4 ในกีฬาตะกร้อ) ถนัดการใช้ ‘แท็ปปิงสไปค์’ (การตอกลูกด้วยส้น) เขาเป็นหนึ่งในสามผู้ประยุกต์ใช้ทักษะเซปักตะกร้อในการแข่งฟุตบอล และเป็นบุตรชายของนักกีฬาตะกร้อนามว่า ต่อศักดิ์ กรสวัสดิ์
ธงชาติของไทย สกุล กรสวัสดิ์ (FW)
น้องรองตระกูลกรสวัสดิ์ สวมเสื้อเบอร์ 9 เป็นผู้มีพลังกระโดดสูงสุดและมีท่าไม้ตายคือ ‘ซิสเซอร์สไปค์’ เขาเป็นหนึ่งในสามผู้ประยุกต์ใช้ทักษะเซปักตะกร้อในการแข่งฟุตบอล และเป็นบุตรชายของนักกีฬาตะกร้อนามว่า ต่อศักดิ์ กรสวัสดิ์
ธงชาติของไทย ชนะ กรสวัสดิ์ (FW)
น้องเล็กของตระกูลกรสวัสดิ์ สวมเสื้อเบอร์ 11 (สวมเสื้อเบอร์ 3 ในกีฬาตะกร้อ) ชอบทำเสียงร้องแบบแมวไทย และมักทำแต็กติกแกล้งล้มตบตากรรมการ มีท่าไม้ตายคือ ‘โรลลิง สไปค์’ (ฟ้าลั่น และสกุล เป็นตัวส่ง) เขาเป็นหนึ่งในสามผู้ประยุกต์ใช้ทักษะเซปักตะกร้อในการแข่งฟุตบอล และเป็นบุตรชายของนักกีฬาตะกร้อนามว่า ต่อศักดิ์ กรสวัสดิ์
ธงชาติของไทย สัมฤทธิ์, เฉลิมศิริ, ถวัลย์ (MF)
นักฟุตบอลชุดเยาวชนทีมชาติไทย สวมเสื้อเบอร์ 5, 7 และ 8 ตามลำดับ
ธงชาติของไทย ชัดชัย, เชาว์ชนะ, นภา (DF)
นักฟุตบอลชุดเยาวชนทีมชาติไทย สวมเสื้อเบอร์ 3, 2, 6 (นภาเคยเป็นฐานให้ชนะถีบตัวขึ้นไปโดยไม่ได้ตั้งใจ)
ธงชาติของไทย บุนนาค สิงห์ประเสริฐ (DF)
กัปตันทีมชุดเยาวชนชาติไทย สวมเสื้อเบอร์ 4 ผู้ประยุกต์ใช้ทักษะมวยไทยในการแข่งฟุตบอล
ธงชาติของไทย วัชรพร (GK)
ผู้รักษาประตูชุดเยาวชนทีมชาติไทย สวมเสื้อเบอร์ 1
ธงชาติของไทย สมาน
ผู้จัดการทีม

[แก้] รายชื่อสมาชิกจากทีมประเทศอื่น

ธงชาติของบราซิล คาร์ลอส ซันตานา
เป็นศูนย์หน้าของทีมเยาวชนบราซิล ซันตาน่าเป็นกองหน้าอัจฉริยะ และเป็นคู่แข่งของซึบาสะ ซันตาน่านั้น สามารถนำเทคนิคยิงประตูจากคนอื่นมาเป็นของตนเองได้ อย่างเช่น ฟลายอิ้งไดรว์ชู้ต ของซึบาสะ โรลลิ่งโอเวอร์เฮดคิ๊ก ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะตัวของซันตานา ลูกยิงโกลเด้น อีเกิ้ลช็อตของ มัตสึยาม่า สกายวิงชู๊ต ในตอนแรกนั้น ซันตาน่าเป็นคนที่เย็นชา และไม่ค่อยมีความรู้สึก เพราะเกิดจากการที่ ตากับยายที่เลี้ยงตนมาได้ตายจากไป และโดนบังคับจาก มิสเตอร์บาลา เจ้าของสโมสรบาลา FC ในบราซิลให้เล่นฟุตบอลตามที่ตนต้องการ แต่เมื่อได้พบกับซึบาสะ จึงทำให้เขาเปลี่ยนไป ซันตาน่าได้ย้ายไปเล่นกับ บาเลนเซียในสเปน เพื่อแข่งกับซึบาสะที่อยู่บาร์เซโลนา
ธงชาติของสวีเดน สเตฟาน เลวิน
นักเตะจากสวีเดน เล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค สวมเสื้อหมายเลข 12
ธงชาติของเยอรมนี คาร์ล ไฮนซ์ ชไนเดอร์
กองหน้าชาวเยอรมัน เผู้มีทั้งพละกำลังและความเฉียบขาด ยิงได้ทั้งสองเท้า ลูกกลางอากาศก็แข็งแกร่ง และยังมีความเป็นผู้นำสูงมาก เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งกับวากาบายาชิ มีลูกยิงอันทรงพลัง "ไฟร์เออร์ช็อต" และในภาคหลังได้พัฒนาเป็น "นีโอ ไฟร์เออร์ช็อต" ชไนเดอร์เล่นทีมสโมสรให้ บาเยิร์น มิวนิค สวมเสื้อหมายเลข 11
ธงชาติของเยอรมนี ฟรานซ์ เชสเตอร์
เป็นกองกลางของทีมเยอรมัน ผู้สวมเสื้อหมายเลข 10 และได้ฉายาว่า เพชฌฆาตจอมเลื้อยในแดนกลาง เล่นให้กับทีม แวร์เดอร์ เบรเมน
ธงชาติของเยอรมนี มาลคัส
กองหน้าทีมเยอรมัน เป็นนักเตะที่ได้เปรียบในเรื่องความสูง จึงมีลูกโหม่งที่ยอดเยี่ยม เล่นให้กับทีม แวร์เดอร์ เบรเมน
ธงชาติของเยอรมนี ดิวเตอร์ มูลเลอร์
ผู้รักษาประตูชาวเยอรมัน เล่นให้ เฟาเอฟเบ สตุ๊ทการ์ท
ธงชาติของเยอรมนี เฮลมัน คาลตซ์
กองกลางชาวเยอรมัน เล่นให้ ฮัมบูร์กสวมเสื้อหมายเลข 5
ธงชาติของฝรั่งเศส เอล ซี ปีแอร์
กองกลางชาวฝรั่งเศส เล่นให้ บอร์กโดซ์
ธงชาติของอิตาลี ซีโน เออร์นันเดซ
ผู้รักษาประตูชาวอิตาลี เล่นให้ อินเตอร์มิลาน
ธงชาติของอิตาลี ซาลวาทอเร เจนตีเล
กองหลังชาวอิตาลี เล่นให้ ยูเวนตุส
Flag of the People's Republic of China เซียว ซุงโก
กองกลางชาวจีน เล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค สวมเสื้อหมายเลข 16
ธงชาติของอาร์เจนตินา ฮวน รามอน ดีอาส
กองหน้าชาวอาร์เจนตินา
ธงชาติของอุรุกวัย รามอน วิกตอรีโน
กองหน้าชาวอุรุกวัย เล่นให้กับ แวร์เดอร์ เบรเมน สวมเสื้อหมายเลข 11
ธงชาติของญี่ปุ่น/ธงชาติของอุรุกวัย ฮิโนะ เรียวมะ
กองหน้าลูกครึ่งชาวญี่ปุ่น-อุรุกวัย แต่เล่นให้กับทีมอุรุกวัย โดยเล่นให้สโมสร ริเวอร์เพลต
ธงชาติของบราซิล นาโทเรซา
กองกลางชาวบราซิล เป็นคนที่เก่งกว่าซันตานาและได้สวมเสื่อเบอร์ 10 ในภาคยุวชนโลก ปัจจุบันเล่นให้สโมสร เรอัล มาดริด
ธงชาติของบราซิล เปเป้
กองหน้านักเตะชาวบราซิล เล่นให้สโมสร คะชิมะ แอนต์เลอร์
ธงชาติของบราซิล เลโอ
กองกลางนักเตะชาวบราซิล เล่นให้สโมสร คะชิมะ แอนต์เลอร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น